IF หรือ Intermittent Fasting  คือการลดน้ำหนักแบบจำกัดช่วงเวลาการกิน  เป็นวิธีการควบคุมน้ำหนักสูตรหนึ่ง ที่ได้รับความนิยม และเป็นที่สนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวิธีที่หลายๆ คนบอกว่าง่าย และสะดวกกว่าการทำอาหารคลีน การออกกำลังกาย ในการทำ IF จะแบ่งเวลาการกินออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงอด (Fasting) และช่วงกิน (Feeding) โดยวิธีการของการทำ Intermittent Fasting นั้น จะมีประโยชน์หลัก คือสามารถช่วยยกระดับการเผาผลาญไขมันให้กับร่างกาย จึงทำให้น้ำหนักจากการสะสมของไขมันจึงลดลงไปด้วย ซึ่งหลักการเผาผลาญไขมันคือ ในช่วงอด (Fasting) ระดับอินซูลินจะลดลง ระดับของ Growth Hormone สูงขึ้น การอดระยะสั้นสลับกันไปนี้ จะสามารช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญของร่างกายได้ 3.6-14% อีกทั้งยังช่วยลดไขมันสะสมรอบเอว โดยไม่ทำให้มวลกล้ามเนื้อลดลองเหมือนกับการอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักแบบอื่นด้วย

อดอาหารแบบไหนได้บ้าง ?

  1. Lean Gains เป็นวิธีที่นิยมมาก คือการอดอาหาร 16 ชั่วโมง และกิน 8 ชั่วโมง โดยจะเริ่มเวลาไหนก็ได้ ที่มีความเหมาะสมและไม่กระทบต่อวิถีชีวิตของเรามากนัก
  2. Fast 5 จะเป็นลักษณะเดียวกันกับ 16/8 คือจะสามารถทานอาหารได้เพียง 5 ชั่วโมง และอด 19 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่อง
  3. Eat Stop Eat วิธีนี้จะต้องอดอาหาร 24 ชั่วโมง 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นวิธีที่มือใหม่ยังไม่ควรลอง แต่คนที่เคยผ่านวิธี Lean Gains และ Fast 5 ลองเปลี่ยนเพื่อให้เห็นผลมากยิ่งขึ้น
  4. 5:2 คือ กินแบบปกติ 5 วัน กินแบบ Fasting 2 วัน โดยจะทำติดกัน 2 วันหรือห่างกันก็ได้ แต่จะทานได้น้อยลง คือสามารถทานได้ประมาณ ¼ ของ Kcal ต่อวัน
  5. Warrior Diet เป็นการกินแบบอด 20 ชั่วโมง และกิน 4 ชั่วโมง หรือกินมื้อใหญ่มือเดียว โดยจะเน้นทานโปรตีนและผักสด
  6. ADF (Alternate Day Fasting) คือการอดอาหารแบบวันเว้นวันโดยวันที่อดสามารถกินอาหารแคลอรีต่ำในปริมาณน้อย ๆ ได้

จะต้องทานอะไรในช่วงที่ทานได้ ?

คุณสามารถรับประทานอะไรก็ได้ในช่วงเวลาที่ทานได้ แต่ก็ไม่ควรเกินปริมาณ Kcal ที่คุณควรจะได้รับในแต่ละวัน และการเลือกทานอาหารแบบ Low Carb High Fat เป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่เลือกทำ วิธีนี้ต้อง Low Carbohydrate คือลดน้ำตาล แป้งขัดขาว และ High Fat คือทานไขมันดีจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอก, ถั่ว, งา และอะโวคาโด โดยการกินแบบนี้จะทำให้อินซูลินไม่สูง และดีต่อการทำ Fasting เป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า เพียงแค่ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหารลง ก็สามารถช่วยลดน้ำหนักได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม การลดน้ำหนักไม่ว่าจะวิธีใด ก็ควรจะออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย เพื่อลดความหย่อนคล้อยของผิวหนัง และช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับ และในแต่ละมือควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อไม่ให้ขาดสารอาหารด้วยนะ